เส้นสายแห่งกาลเวลาของกูย/กวย Timelines of Kouis History កាល​បរិច្ឆេទ​ប្រវត្តិសាស្រ្តកួយ

- พ.ศ. 1976 มีหลักฐานที่ยืนยันว่าชนชาติพันธุ์กูย /หรือ กวย เป็นที่รู้จักมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ซึ่งตรงกับรัชสมัย สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา ราชวงศ์สุพรรณภูมิ-ครั้งที่ 2 แห่งกรุงศรียุธยา (เริ่มครองราช พ.ศ.1967 -สิ้นสุดราชกาล พ.ศ.1991 ) คือ พระอัยการอาญาหลวง พ.ศ. 1976 กล่าวถึงในการห้ามหญิงไทยแต่งงานกับคนต่างด้าว ได้แก่ ฝารั่ง อังกริด วิลันดา คุลา ชวา มลายู แขก กวย แกว คลิก

- พ.ศ.2302 ตากะจะและเชียงขันธ์ ร่วมกับสหายซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มเขมรป่าดงตามจับพระยาช้างเผือกคืนกลับกรุงศรีอยุธยาได้จึงมีความชอบ ตากะจะ ได้รับโปรดเกล้าฯ บรรดาศักดิ์เป็น “หลวงแก้วสุวรรณ” ตำแหน่งนายกองหมู่บ้านปราสาทสี่เหลี่ยมโคกลำดวน ในฐานะรับราชการ ในยุคกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย (คำว่า "
เขมรป่าดง" เป็นคำที่ทางการเรียกเหมารวมดินแดนอีสานใต้ในอดีตซึ่งประกอบด้วยชนหลายชาติพันธุ์ ได้แก่ เขมร กูย/กวย ลาว เป็นต้น)


- พ.ศ. 2319 ตรงกับรัชสมัยพระเจ้าตากสิน  แห่งกรุงธนบุรี ได้ทำสงครามกับลาว ด้วยเหตุที่เมืองจำปาสัก ได้ร่วมมือกับพระยานางรอง ยกพลเข้ามาทำการกวาดต้อนผู้คนในครัวเรือนที่เคยขึ้นต่อจำปาสัก แต่ต่อมาได้มาขึ้นต่อการปกครองของสยามประเทศในขณะนั้น สร้างความ ไม่พอพระทัยให้พระองค์เป็นอย่างยิ่ง จึงทรงโปรดเกล้าฯ  ให้พระยาจักรี (พระยศของ ร.1 ในขณะนั้น)  ยกทัพไปปราบ  จนสามารถจับพระยานางรองประหารชีวิต  แล้วจึงได้ร่วมกับพระยาสุรสีห์ฯ ยกทัพไปตีเมืองลาวใต้ ที่เมืองจำปาสัก เมืองอัตปือแสนปาง และเมืองสีทันดร เมื่อเสร็จศึกแล้วได้กวาดต้อนชาวลาว และเกลี้ยกล่อมชนพื้นเมืองให้มาขึ้นอยู่ภายใต้การปกครองดูแลของ เมืองขุขันธ์ เมืองสุรินทร์และ  เมืองสังขะ เป็นจำนวนมาก

- พ.ศ. 2321 พระเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงธนบุรี (พระเจ้าตากสิน) ทรงไม่พอพระทัยในการกระทำของเจ้าสิริบุญสาร เจ้าผู้ครองเมืองเวียงจันทน์ ที่ได้ให้พระสุโพธิ์ยกกองทัพไปจับพระวอ นำไปประหารชีวิต ถือเป็นการกระด้างกระเดื่อง ไม่ยำเกรงต่อพระราชอำนาจกรุงธนบุรี พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ พระยาจักรียกทัพไปปราบ โดยมีบัญชาให้ทัพจากเมืองขุขันธ์  เมืองสุรินทร์  และเมืองสังขะ  ยกทัพร่วมทำศึกในครั้งนี้ด้วย  ทัพจากเมืองขุขันธ์ โดยการนำทัพของ “พระไกรภักดีศรีนครลำดวน” (ตากะจะ หรือ หลวงแก้วสุวรรณ) และ “หลวงปราบ”  ผู้ช่วยเมืองขุขันธ์ (เชียงขันธ์) ในการทำศึกครั้งนี้ใช้เวลา 4 เดือน จึงสามารถชนะศึกและปราบปรามได้ 

พ.ศ. 2376 - 2382  รัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ว่า พระองค์เคยรับสั่งให้ “เจ้าพระยาบดินเดชาสิงหเสนีย์” (สิงห์ สิงหเสนีย์) ผู้เป็นแม่ทัพสำคัญของไทยในขณะนั้นออกเดินทางมายังบ้านเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อจัดทำบัญชีพลหัวเมืองฝ่ายตะวันออกให้ชัดเจนเป็นหลักฐานเก็บรักษาไว้ ซึ่งก็รวมถึงหัวเมืองเขมรป่าดงเหล่านี้ด้วย ซึ่งในสมัยนั้น "เมืองเขมรป่าดง" (เมื่อปี พ.ศ. 2379) ประกอบด้วย 13 เมือง

- พ.ศ. 2428 เรื่องราวเมืองขุขันธ์ เมื่อปี พ.ศ. 2428 ในบันทึกย่อหมายเหตุเกี่ยวกับลาว เมื่อ ปี ค.ศ. 1885 (ตรงกับ พ.ศ. 2428) ของ เอเตียน เอมอนิเยร์ พูดถึงการมีอยู่ของชนชาติพันธุ์กูย ร่วมกับชนชาติพันธุ์เขมร และชนชาติพันธุ์ลาว

- พ.ศ. 2435 เนื่องจากพระเจ้าอยู่หัวฯ ร.5 พระองค์ได้ทรงเห็นว่า เมืองขุขันธ์ เมืองสุรินทร์ และเมืองสังขะ รวมทั้งเมืองศีร์ษะเกษ มีราษฎรพูดภาษาถิ่นหลายภาษา อันได้แก่ ภาษาเขมร ภาษากูย/กวย  ภาษาเยอ และภาษาลาว จึงทรงโปรดเกล้าแต่งตั้งให้ พระศรีพิทักษ์ เป็นข้าหลวงใหญ่กำกับราชการแยกเป็นอีกเขตหนึ่ง ประกอบด้วยเมืองขุขันธ์ เมืองสุรินทร์ เมืองสังขะ และเมืองศีร์ษะเกษ นับเป็นท่านที่ 4 ที่มีตำแหน่งข้าหลวงกำกับราชการประจำเมืองขุขันธ์

-พ.ศ. 2442 ในสมัยรัชกาลที่ 5 จึงได้มีการออกประกาศเปลี่ยนนามมณฑล ร.ศ.118 และเมื่อมีการสำรวจสำมะโนครัว ก็ได้ห้ามการระบุว่าเป็นชาติลาว เขมร กูย/กวย  ผู้ไท ฯลฯ แต่กำหนดให้ใช้สัญชาติไทยเหมือนกันหมด

- พ.ศ. 2449 สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ท่านกล่าวว่า "... เมืองสุรินทร์ เมืองสังคะ เมืองขุขันธ์ เมืองศีร์ษะเกษ และอำเภอประโคนชัย(เดิมชื่อว่า "เมืองตลุง") บรรดาอยู่ฝั่งใต้ต่อแดนกัมพูชา ชาวเมืองเป็น "เขมรป่าดง" ทั้งนั้น..."

- พ.ศ. 2547  จากเสี้ยวหนึ่งของผลของการวิจัยในหนังสือแผนที่ภาษาของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆในประเทศไทย (Ethnolinguistic Maps of Thailand) ของสำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติ ซึ่งตีพิมพ์เมื่อเดือนกันยายน 2547(ISBN 974-7103-58-3) ภาษากูย /หรือ ภาษากวย ភាសាកួយ​​ จัดอยู่ในตระกูลภาษาตระกูลออสโตรเอเชียติก(AUSTROASIATIC) หรือตระกูลภาษามอญ-เขมรตะวันออก(EASTERN MON-KHMER) กลุ่มกะตู(KATUIC)

- พ.ศ. 2548 แผนที่ชาติพันธุ์วิทยาของประเทศกัมพูชาที่แสดงถึงบริเวณพื้นถิ่นที่พบว่ายังคงมีการใช้ภาษาพูดทั้ง 5 กลุ่มตระกูลภาษา เมื่อปี ค.ศ. 2005/พ.ศ.2548 

- พ.ศ.2549 Parlons kouy Une langue mon-khmer : หนังสือชื่อ มาคุยภาษากูยกันเถอะ (ภาษามอญ-เขมรอีกภาษาหนึ่ง) ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อปี พ.ศ. 2549